ข้ามไปเนื้อหา

สมเด็จพระมหากษัตริยานี สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ กุสุมะ นารีรัตน์ สิรีวัฒนา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จพระมหากษัตริยานี สีสุวัตถิ์
มุนีวงศ์ กุสุมะ นารีรัตน์ สิรีวัฒนา
พระบรมฉายาลักษณ์ใน ค.ศ. 1967
พระมหากษัตริย์กัมพูชา
(พิพาท)
ครองราชย์20 มิถุนายน ค.ศ. 1960 – 9 ตุลาคม ค.ศ. 1970
ก่อนหน้าพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต
ถัดไปเจง เฮง (ในฐานะประธานาธิบดี)
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ (ในฐานะพระมหากษัตริย์)
ประธานแห่งรัฐสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
นายกรัฐมนตรี
สมเด็จพระราชินีแห่งกัมพูชา
ดำรงพระยศ2 มีนาคม ค.ศ. 1955 – 3 เมษายน ค.ศ. 1960
สถาปนา6 มีนาคม ค.ศ. 1956
ก่อนหน้าพระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ พงสานมุนี
ถัดไปลอน โสวัณนา (ในฐานะสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง)
สมเด็จพระราชอัครมเหสีนโรดม มุนีนาถ สีหนุ (ในฐานะสมเด็จพระราชินี)
กษัตริย์พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต
พระราชสมภพ9 เมษายน ค.ศ. 1904(1904-04-09)
พนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา อินโดจีนของฝรั่งเศส
สวรรคต27 เมษายน ค.ศ. 1975(1975-04-27) (71 ปี)
ปักกิ่ง ประเทศจีน
บรรจุพระบรมอัฐิวัดพระแก้วมรกต
พระสวามีพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต (สมรส 1920; เสียชีวิต 1960)
พระราชบุตรพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
พระนามเดิม
พระองค์เจ้าสีสุวัตถิ์ กุสุมะ
ราชวงศ์ตรอซ็อกผแอม
ราชสกุลสีสุวัตถิ์ (พระราชสมภพ)
นโรดม (ราชาภิเษกสมรส)
พระราชบิดาพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์
พระราชมารดาสมเด็จพระอัครมเหสี มหากษัตรีย์ นโรดม กานวิมาน นรลักข์เทวี
ศาสนาพุทธเถรวาท

สมเด็จพระมหากษัตริยานี สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ กุสุมะ นารีรัตน์ สิรีวัฒนา[1] (เขมร: ស៊ីសុវត្ថិមុនីវង្ស កុសុមៈនារីរ័ត្នសិរិវឌ្ឍនា; 9 เมษายน พ.ศ. 2447 — 27 เมษายน พ.ศ. 2518) พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ ที่ต่อมาได้รับราชการฝ่ายในเป็นพระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต และได้เป็นพระราชชนนีในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ หลังการสวรรคตของพระราชสวามี

พระราชประวัติ[แก้]

สมเด็จพระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์มุนีวงศ์ กุสุมะนารีรัตน์สิรีวัฒนา พร้อมด้วยข้าราชบริพาร ณ ตำหนักฝ่ายใน พระบรมราชวังจตุมุขสิริมงคล

สมเด็จพระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์มุนีวงศ์ กุสุมะนารีรัตน์สิรีวัฒนา พระราชสมภพเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2447 เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ กับหม่อมเจ้านโรดม กานวิมาน นรลักข์เทวี (នរោត្តម កានវិមាន នរល័ក្ខទេវី) ขณะมีพระชนมายุ 16 พรรษา ได้เสกสมรสกับหม่อมเจ้านโรดม สุรามฤตเมื่อปี พ.ศ. 2463 ทั้งสองมีพระโอรสเพียงคนเดียวคือ หม่อมราชวงศ์นโรดม สีหนุ

ครั้นในกาลต่อมาหม่อมราชวงศ์นโรดม สีหนุ ได้รับการเลือกจากฝรั่งเศสให้สืบราชบัลลังก์ต่อจากพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ แทนสมเด็จกรมพระสีสุวัตถิ์ มุนีเรศพระอนุชา​ของพระองค์ ซึ่งเป็นทายาทผู้มีสิทธิโดยตรง[2] แต่ในปี พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุได้สละราชสมบัติแก่พระราชบิดาที่ต่อมาคือพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต เพราะทรงตั้งพระทัยที่จะเป็นนักการเมือง การสละราชสมบัติครานั้นพระนางกุสุมะและพระราชสวามีทรงกันแสงอย่างหนัก[3] ครั้นพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤตเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2503 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุจึงเป็นประมุขแห่งรัฐสืบมา (แต่มิใช่ในฐานะพระมหาษัตริย์)

ล่วงในปี พ.ศ 2513 สมาชิกสภาแห่งชาติที่วางแผนโดยหม่อมราชวงศ์สีสุวัตถิ์ สิริมตะ ที่ลงมติถอดถอนพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุจากประมุขแห่งรัฐที่ขณะนั้นยังเสด็จเยือนต่างประเทศ โดยมีลอน นอลลงนามถอดถอนก่อนสถาปนาสาธารณรัฐเขมรขึ้น หลังจากนั้นได้เกิดเหตุการณ์พนมเปญแตก เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2518 ที่เกิดการสังหารเชื้อพระวงศ์และราษฎรกัมพูชาจำนวนมาก ส่งผลให้สมเด็จพระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์มุนีวงศ์ กุสุมะนารีรัตน์สิรีวัฒนา เสด็จลี้ภัยออกจากกัมพูชา ก่อนเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 27 เมษายนปีเดียวกัน ณ ปักกิ่ง ประเทศจีน ขณะมีพระชนมายุ 71 พรรษา

ความสนพระทัย[แก้]

ช่วงปี พ.ศ. 2483 พระองค์ได้อุปถัมภ์ระบำเทพอัปสรขึ้นใหม่ โดยมีพระราชนัดดาพระองค์ใหญ่คือสมเด็จพระเรียมนโรดม บุปผาเทวี เป็นตัวชูโรง และเป็นนางรำที่มีชื่อเสียง[4]

อ้างอิง[แก้]

  1. ยรรยงค์ สิกขะฤทธิ์ (2559). การศึกษาเปรียบเทียบราชาศัพท์ในภาษาไทยและภาษาเขมรจากมุมมองข้ามสมัย (PDF). คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. p. 218.
  2. ธิบดี บัวคำศรี. ชุด "อาเซียน" ในมิติประวัติศาสตร์ ประวัติศาสตร์กัมพูชา. กรุงเทพฯ:เมืองโบราณ. 2555, หน้า 84
  3. สุภัตรา ภูมิประภาส (30 ตุลาคม 2555). "เรื่องจริงไม่อิงนิยายของราชสำนักกัมพูชา (2): ชายาของพ่อ". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 19 ตุลาคม 2558. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)
  4. สุภัตรา ภูมิประภาส (20 ตุลาคม 2555). "เรื่องจริงไม่อิงนิยายของราชสำนักกัมพูชา (1): เรื่องเล่าของเจ้าชายน้อย กับชีวิตที่พลัดพราก". ประชาไท. สืบค้นเมื่อ 19 ตุลาคม 2558. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]